สร้างระบบ ThinClient ใช้ในองค์กร 6/8


อัปเดท : 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2552 , แสดง : 17,707 , ความคิดเห็น : 2

หลังจากติดตั้ง Terminal Service ของ Windows 2003 และการเปิดใช้งาน Remote Desktop ของ Windows XP เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้สภาพแวดล้อมต่างๆก็จะเหมือนระบบทั่วไปที่ เครื่องลูกข่ายสามารถ รีโมทเข้าไปใช้งานโปรแกรมต่างๆบนเครื่องแม่ข่ายได้ตามสิทธิ์ที่กำหนดโดย ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน

ต่อไปเราจะมาดูขั้นตอนสำคัญที่จะ ติดตั้งให้เครื่องลูกข่าย บูทและเข้ารีโมทเครื่องแม่ข่าย มีขั้นตอนคร่าวๆ ดัีงนี้ (พยายามจะเขียนเป็นขั้นตอน)

1. ก่อนอื่นต้องโหลดโปรแกรมและ Image file ทั้งหมดก่อนซึ่งดาวน์โหลดได้ที่ http://thinstation.sourceforge.net เข้าในส่วนของดาวน์โหลด (Download) ซึ่งในหน้านั้น มี Image file หลายรูปแบบให้เลืือก ดาวน์โหลด ตามเหมาะสมว่าจะให้ ระบบบูทกับอะไร ซึ่งในที่นี้จะเป็น PXE บูทซึ่งเป็นการบูทผ่าน Lancard แนะนำให้เลือก Prebuilt images

 

การบูทของระบบ thinstation นี้สามารถเลือกบูทได้หลายแบบ เลือกตามสภาพแวดล้อมของระบบ เช่นบุทผ่านฮาร์ดดิสก์ ,บูทผ่าน CD ,บูทผ่าน LAN CARD (PXE) ซึ่งในที่นี้จะแสดงถึงการ บูทผ่าน LAN CARD (PXE) เพียงอย่างเดียวส่วนการบูทแบบอื่นๆ ท่านสามารถศึกษาได้จาก http://thinstation.sourceforge.net

2. เมื่อได้ไฟล์แล้วก็ให้ เขียนไฟล์ลง CD โดยใช้โปรแกรมเขียนแผ่นทั่วไป หรืออาจสร้าง Image Drive เพื่อเปิดไฟล์

3. ผมเองไม่ขออธิบายในรายละเอียดเนื่องจากศึกษาได้จาก ไฟล์ต่าง ๆใน CD แต่ขอสรุปว่าหลักๆมีไฟล์ที่ต้องใช้ 2 ไฟล์ ซึ่งเป็น Image ไฟล์ คือไฟล์ thinstation.nbi และ ไฟล์ thinstation.nbi.zpxe และต้องใช้ไฟล์ config อื่นๆ ดังรายละเอียดด้านล่าง ส่วนโครงสร้างการวางไฟล์ ผมขอไม่อธิบายเป็นข้อความแต่จะให้ดูเป็นรูปถ้าถึงขั้นนี้ น่าจะพอเข้าใจได้ไม่ยาก



โฟลเดอร์ D:\boot ซึ่งเป็นโฟลเดอร์ที่สร้างขึ้น เพื่อจัดการเก็บไฟล์ที่ช่วย boot ระบบเทอมินอลทั้งหมด โดยระบบ windows ต้องกำหนด permission ให้ user,everyone สามารถ อ่านโฟลเดอร์นี้ได้ด้วย



โฟลเดอร์ D:\boot\root_dhcp เป็นโฟลเดอร์ที่เก็บไฟล์ เกี่ยวกับ DHCP Server ซึ่งการตั้งค่าต่างๆของโฟลเดอร์นี้ ดูได้จากบทความก่อนหน้านี้ http://www.nextproject.net/contents/default.aspx?00073



โฟลเดอร์ D:\boot\root_tftp เป็นโฟลเดอร์ที่เก็บไฟล์ เกี่ยวกับ TFTP Server ซึ่งการตั้งค่าต่างๆของโฟลเดอร์นี้ ดูได้จากบทความก่อนหน้านี้ http://www.nextproject.net/contents/default.aspx?00073 จากรูปมีไฟล์ที่ต้องใช้ 2 ไฟล์ ซึ่งเป็น Image ไฟล์ คือไฟล์ thinstation.nbi และ ไฟล์ thinstation.nbi.zpxe และต้องใช้ไฟล์ config อื่นๆ เช่น thinstation.conf-192.168.1.22,thinstation.conf.network (ตัวอย่างด้านล่างสามารถประยุกต์ใช้ตามนี้ได้เลย)

ไฟล์ config อื่นๆ

thinstation.conf.example

This file must be named "thinstation.conf<xxx>" where <xxx> can be:

.buildtime  

Defines the defaults build into the image (note the leading .)

 

 

.network    

Default config file loaded from the TFTP server.

thinstation.conf.network

netboots

.user       

Config file on local storage.

thinstation.conf.user

CDboots

-<name>      

Specific config file on the TFTP server for the terminal"name" (e.g. thinstation.conf- jakkrite). Requires thinstation.hosts.

thinstation.conf- jakkrite

netboots

.group-<id> 

Config file for a group of terminals (e.g. with printer setup for those terminal with local printers. Requires thinstation.hosts.

thinstation.conf.group-800x600
thinstation.conf.group-usb_print

 

netboots

-<IP>       

Specific config file on the TFTP server for the terminal withthe IP number <IP> specified

thinstation.conf-192.168.1.20

netboots

-<MAC>    

Specific config file on the TFTP server for the terminal with the MAC address specified.

thinstation.conf-00aa556677

netboots

thinstation.hosts (MAP Client, Group and name)


#=========================================================#
# HOST    MAC                    GROUPS                          COMMENTS                                       #
#=========================================================#
TS203       00d0b7491b21     800x600 usb_print         # TS Computer (Multi Group)
TS203       00d0b7491b21     800x600                       # TS Computer
jakkrite     005001231234                                         # jakkrite (Computer Name )

thinstation.conf.network (ตัวอย่าง กำหนด config กลางไม่ระบุเครื่องลูก)

AUTOSTART=On
SESSION_0_TITLE="Windows Terminal server"
SESSION_0_TYPE=rdesktop
SESSION_0_RDESKTOP_SERVER=192.168.1.251

#select one option.
SESSION_0_RDESKTOP_OPTIONS="-u '' -p - -a 16 -r 'disk:floppy=/mnt/floppy,CD=/mnt/cdrom,USB=/mnt/usbdevice/0.bus0.target0.lun0/part1'"  # with Mapping Floppy /CD-ROM/USB

#SESSION_0_RDESKTOP_OPTIONS="-u '' -p - -a 16 -r 'disk:floppy=/mnt/floppy,CD=/mnt/cdrom,USB=/mnt/usbdevice/0.bus0.target0.lun0/part1"  # with Mapping Floppy /CD-ROM/USB
#SESSION_0_RDESKTOP_OPTIONS="-u '' -p - -a 16 -r 'disk:floppy=/mnt/floppy,cdrom=/mnt/cdrom'"  # with Mapping Floppy and cD-ROM
#SESSION_0_RDESKTOP_OPTIONS="-u '' -p - -a 16 -r 'disk:floppy=/mnt/floppy'"  # with Mapping Floppy
#SESSION_0_RDESKTOP_OPTIONS="-u '' -p - -a 16"  #origional Remote

# --- General Options
KEYBOARD_MAP=en_us
#RECONNECT_PROMPT=On

SCREEN_RESOLUTION="1024x768"
SCREEN_COLOR_DEPTH="16"
SCREEN_HORIZSYNC="30-64"
SCREEN_VERTREFRESH="56-87"
MOUSE_RESOLUTION=100

# --- Printing Options

#PRINTER_0_NAME=parallel
#PRINTER_0_DEVICE=/dev/printers/0
#PRINTER_0_TYPE=P

#PRINTER_1_NAME=serial
#PRINTER_1_DEVICE=/dev/ttyS1
#PRINTER_1_TYPE=S
#PRINTER_1_OPTIONS="speed 38400 -imaxbel"

#PRINTER_2_NAME=usb
#PRINTER_2_DEVICE=/dev/usb/lp0
#PRINTER_2_TYPE=U

thinstation.conf-192.168.1.22 , thinstation.conf-00AA112233  (ตัวอย่าง กำหนด config ตาม IP , MAC)


AUTOSTART=On
SESSION_0_TITLE="Windows Terminal server"
SESSION_0_TYPE=rdesktop
SESSION_0_RDESKTOP_SERVER=192.168.1.251

#select one option.
SESSION_0_RDESKTOP_OPTIONS="-u 'username' -p 'password' -a 16 -r 'disk:floppy=/mnt/floppy,CD=/mnt/cdrom,USB=/mnt/usbdevice/0.bus0.target0.lun0/part1'"  # with Mapping Floppy /CD-ROM/USB

#SESSION_0_RDESKTOP_OPTIONS="-u '' -p - -a 16 -r 'disk:floppy=/mnt/floppy,CD=/mnt/cdrom,USB=/mnt/usbdevice/0.bus0.target0.lun0/part1"  # with Mapping Floppy /CD-ROM/USB
#SESSION_0_RDESKTOP_OPTIONS="-u '' -p - -a 16 -r 'disk:floppy=/mnt/floppy,cdrom=/mnt/cdrom'"  # with Mapping Floppy and cD-ROM
#SESSION_0_RDESKTOP_OPTIONS="-u '' -p - -a 16 -r 'disk:floppy=/mnt/floppy'"  # with Mapping Floppy
#SESSION_0_RDESKTOP_OPTIONS="-u '' -p - -a 16"  #origional Remote

# --- General Options

KEYBOARD_MAP=en_us

#SCREEN_RESOLUTION="1024x768"
SCREEN_RESOLUTION="800x600"
SCREEN_COLOR_DEPTH="16"
SCREEN_HORIZSYNC="30-64"
SCREEN_VERTREFRESH="56-87"

MOUSE_RESOLUTION=100

# --- Printing Options

PRINTER_0_NAME=parallel
PRINTER_0_DEVICE=/dev/printers/0
PRINTER_0_TYPE=P


thinstation.conf.group-usb_print (ตัวอย่าง กำหนด config เพิ่มเติมจัดกลุ่มตาม printer)


PRINTER_2_NAME="usb"
PRINTER_2_DEVICE=/dev/usb/lp0
PRINTER_2_TYPE=U

thinstation.conf.group-800x600 (ตัวอย่าง กำหนด config เพิ่มเติมจัดกลุ่มตาม ความละเอียดหน้าจอ)

SCREEN_RESOLUTION="800x600"



เมื่อ set ไฟล์และระบบเรียบร้อยแล้ว ก็ลองทดสอบดูเลยครับ โดยขอเล่ากระบวนการอีกครั้ง



  
 
1. เมื่อเครื่องลูกข่ายบูต เข้าเครือข่าย และเครื่องลูกไม่ได้ Fix IP ไว้ มันก็จะ ฺboardcast ทั้งเครือข่าย คล้ายๆ Who am I ถามว่ารู้มัยว่าหนูเป็นใคร ซึ่งโดยปรกติจะเป็นหน้าที่ของ DHCP (192.168.1.251 - dhcp server) ที่บอกว่าคุณคือ 192.168.1.21 นะ NetMask คุณคือ 255.255.255.0 ,GATEWAY,DNS และอื่นๆที่จำเป็น เครื่องลูกข่ายก็นำค่าต่างๆนั้นมาใช้ ต่อไป แต่ใน ระบบ Terminal ที่ผมจะนำเสนอนี้ ตัว DHCP SERVER ที่ใช้ต้องมี Option เพิ่มเติมซึ่ง DHCP SERVER ทั่วไปไม่มี (หรือมีแต่ผมไม่รู้) ก็คือ ฟังก์ชั่น ในการส่งค่า Next Address(192.168.1.251 - tftp server) และ Next File (thinstation.nbi.zpxe - ไฟล์ตั้งต้นเพื่อจะไปโหลด thinstation.nbi ขนาด 10M ต่อ) ซึ่งสองค่านี้จะเป็นค่าที่บอกเครื่องลูกข่ายว่า ถ้าจะเปิด PXE หรือ บูตผ่าน LAN CARD จะต้องไปเอาไฟล์์ที่เครื่องไหน ไฟล์ชื่ออะไร

2. เมื่อเครื่องลูกข่ายทราบ ค่า Next Address และ Next File และเครื่องลูกข่ายก็เปิด PXE หรือ บูตผ่าน LAN CARD เครื่องลูกข่ายก็จะเชื่อมต่อผ่านโปรโตคอล TFTP ไปที่เครื่องซึ่งกำหนดโดย Next Address(192.168.1.251) ซึ่งตั้งเป็น TFTP SERVER(192.168.1.251) (จากรูปผมใช้เป็นเครื่องเดียวกัน) และ Load ไฟล์ ตามชื่อ Next File(thinstation.nbi.zpxe - ไฟล์ตั้งต้นเพื่อจะไปโหลด thinstation.nbi ขนาด 10M ต่อ) ใน root ของ TFTP SERVER นั้นๆ มาเก็บไว้
ซึ่งไฟล์ที่ผมใช้นั้น เป็นไฟล์ Image Linux ตัวนึง ชื่อว่า Thinstation (http://www.thinstation.org) โดยมันจะเหมือนเป็น Linux ที่ทำหน้าที่เป็น Remote Desktop อย่างเดียวผ่าน โปรโตคอล RDP และ นอกจากไฟล์ Image ก็จะมีไฟล์ การตั้งค่า RDP มาด้วย โดยในไฟล์จะระบุเครื่องที่ จะ Remote เข้าไป

3. เมื่อได้ไฟล์ Image แล้ว เครื่องลูกข่ายก็จะ Build Image ไฟล์นั้นๆ เสมือนเครื่องลูกข่าย มี Linux ตัวเล็กๆ(thinstation.nbi) อยู่ตัวนึงถูก RUN อยู่ในหน่วยความจำและ Linux ตัวเล็กๆ นี้จะวิ่งหาไฟล์ config ของตัวเอง เช่น thinstation.conf-192.168.1.22 หรือ thinstation.conf.network เพื่อกำหนดค่าให้ตัวมันเองต่อไป

4. Linux ตัวนี้ก็จะเรียกโปรแกรมคล้ายๆ Remote Desktop ขึ้นมา และนำค่าที่ได้พร้อมไฟล์ Image ซึ่งเป็น IP Address (thinstation.conf-192.168.1.22 หรือ thinstation.conf.network ค่า SESSION_0_RDESKTOP_SERVER) ของเครื่องที่เปิดให้ Remote เข้าไปได้(Terminal Service) แล้วก็ Remote เข้าไปเลย ขั้นตอนบูตข้างต้นใช้เวลาประมาณ 1 นาที สิ่งที่เห็นก็คือหน้าจอ Login ของ Windows ซึ่งพร้อมใช้งาน

ถึงตอนนี้อาจดูแล้วงงๆ ว่าเป็นไปได้เหรอ ไม่มี Harddisk บูทใช้ windows ได้ ผมเองก็พยายามอธิบายแต่ก็เขียนได้เท่านี้ ถ้ายังไม่เข้าใจลองอ่าน ทั้ง 6 ตอนของเรื่องนี้อีกครั้ง ;) นะครับ

ตามที่ผมได้ศึกษาและพัฒนาใช้ระบบนี้พบว่ามีส่วนการตั้งค่าบางส่วนใช้การตั้งค่าของ Redsktop (http://www.rdesktop.org) ซึ่งจะใช้ตรง
SESSION_0_RDESKTOP_OPTIONS

รายละเอียดการตั้งค่า RDESKTOP OPTIONS (สำหรับบางตัวเท่าที่ทดสอบอาจใช้ได้หรือไม่ได้)

OPTIONS
-u <username>
Username for authentication on the server.

-d <domain>
Domain for authentication.

-s <shell>
Startup shell for the user - starts a specific application
instead of Explorer.

-c <directory>
The initial working directory for the user. Often used in com-
bination with -s to set up a fixed login environment.

-p <password>
The password to authenticate with. Note that this may have no
effect if "Always prompt for password" is enabled on the server.
WARNING: if you specify a password on the command line it may be
visible to other users when they use tools like ps. Use -p - to
make rdesktop request a password at startup (from standard
input).

-n <hostname>
Client hostname. Normally rdesktop automatically obtains the
hostname of the client.

-k <layout>
Keyboard layout to emulate. This requires a corresponding
keymap file to be installed. The standard keymaps provided with
rdesktop follow the RFC1766 naming scheme: a language code fol-
lowed by a country code if necessary - e.g. en-us, en-gb, de,
fr, sv, etc. The default is en-us (a US keyboard).

  
 
-g <geometry>
Desktop geometry (WxH). If geometry is the special word
"workarea", the geometry will be fetched from the extended win-
dow manager hints property _NET_WORKAREA, from the root window.
The geometry can also be specified as a percentage of the whole
screen, e.g. "-g 80%".

-f Enable fullscreen mode. This overrides the window manager and
causes the rdesktop window to fully cover the current screen.
Fullscreen mode can be toggled at any time using Ctrl-Alt-Enter.

-b Force the server to send screen updates as bitmaps rather than
using higher-level drawing operations.

-B Use the BackingStore of the Xserver instead of the integrated
one in rdesktop.

-e Disable encryption. This option is only needed (and will only
work) if you have a French version of NT TSE.

-E Disable encryption from client to server. This sends an
encrypted login packet, but everything after this is unencrypted
(including interactive logins).

-m Do not send mouse motion events. This saves bandwidth, although
some Windows applications may rely on receiving mouse motion.

-C Use private colourmap. This will improve colour accuracy on an
8-bit display, but rdesktop will appear in false colour when not
focused.

-D Hide window manager decorations, by using MWM hints.

-K Do not override window manager key bindings. By default rdesk-
top attempts to grab all keyboard input when it is in focus.

-S <button size>
Enable single application mode. This option can be used when
running a single, maximized application (via -s). When the mini-
mize button of the windows application is pressed, the rdesktop
window is minimized instead of the remote application. The maxi-
mize/restore button is disabled. For this to work, you must
specify the correct button size, in pixels. The special word
"standard" means 18 pixels.

-T <title>
Sets the window title.

-N Enable numlock syncronization between the Xserver and the remote
RDP session. This is useful with applications that looks at the
numlock state, but might cause problems with some Xservers like
Xvnc.

-X <windowid>
Embed rdesktop-window in another window. The windowid is
expected to be decimal.

-a <bpp>
Sets the colour depth for the connection (8, 15, 16 or 24).
More than 8 bpp are only supported when connecting to Windows XP
(up to 16 bpp) or newer. Note that the colour depth may also be
limited by the server configuration.

-z Enable compression of the RDP datastream. This currently only
works for a colour depth of 8bpp.

-x <experience>
Changes default bandwidth performance behaviour for RDP5. By
default only theming is enabled, and all other options are dis-
abled (corresponding to modem (56 Kbps)). Setting experience to
b[roadband] enables menu animations and full window dragging.
Setting experience to l[an] will also enable the desktop wallpa-
per. Setting experience to m[odem] disables all (including
themes). Experience can also be a hexidecimal number containing
the flags.

-P Enable caching of bitmaps to disk (persistent bitmap caching).
This generally improves performance (especially on low bandwidth
connections) and reduces network traffic at the cost of slightly
longer startup and some disk space. (10MB for 8-bit colour,
20MB for 15/16-bit colour and 30MB for 24-bit colour sessions)

-r <device>
Enable redirection of the specified device on the client, such
that it appears on the server. Note that the allowed redirec-
tions may be restricted by the server configuration.

Following devices are currently supported:

-r comport:<comport>=<device>,...
Redirects serial devices on your client to the server. Note that
if you need to change any settings on the serial device(s), do
so with an appropriate tool before starting rdesktop. In most
OSes you would use stty. Bidirectional/Read support requires
Windows XP or newer. In Windows 2000 it will create a port, but
it’s not seamless, most shell programs will not work with it.

-r disk:<sharename>=<path>,...
Redirects a path to the share \\tsclient\<sharename> on the
server (requires Windows XP or newer). The share name is limited
to 8 characters.

-r lptport:<lptport>=<device>,...
Redirects parallel devices on your client to the server. Bidi-
rectional/Read support requires Windows XP or newer. In Windows
2000 it will create a port, but it’s not seamless, most shell
programs will not work with it.

-r printer:<printername>[=<driver>],...
Redirects a printer queue on the client to the server. The
<printername> is the name of the queue in your local system.
<driver> defaults to a simple PS-driver unless you specify one.
Keep in mind that you need a 100% match in the server environ-
ment, or the driver will fail. The first printer on the command
line will be set as your default printer.

-r sound:[local|off|remote]
Redirects sound generated on the server to the client. "remote"
only has any effect when you connect to the console with the -0
option. (Requires Windows XP or newer).

-0 Attach to the console of the server (requires Windows Server
2003 or newer).

-4 Use RDP version 4.

-5 Use RDP version 5 (default).

สร้างระบบ ThinClient ใช้ในองค์กร สุดประหยัดคุ้มค่า


ผู้เขียน/อ้างอิง : จักรกฤษณ์ แร่ทอง

ระบบปฏิบัติการและซอฟท์แวร์

ความคิดเห็น/แนะนำ/ติชม/อื่นๆ

  • บอย พิษณุโลก [15 ก.ค. 2553 , 11:45 AM]

    ผมโหลดไอ้ตัว DHCP มาแล้วแต่ใช้ได้แค่ 30 วันเอง

  • teang [15 ธ.ค. 2554 , 10:01 AM]

    ถ้าใช้วินโด้7 dhcp ให้ใช้เป็นของ http://www.dhcpserver.de/dhcpsrv.htm (ฟรี) ใช้ง่าย ได้ทุกวินโด้